ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีคณาจารย์และนักวิจัยจากหลายคณะ สถาบัน ร่วมทำงานอย่างบูรณาการภายใต้วัตถุประสงค์ที่สอดคล้องตามชื่อบันทึกความเข้าใจ อันได้แก่ การบริหารทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมชายฝั่งในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันและทะเลอ่าวไทย การจัดการต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยใช้งานวิจัยขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์สูงสุดและปลูกฝังนิสิตให้เป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยน รู้สึกรักและหวงแหนในทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมในมิติต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”

ศาสตราจารย์ ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวถึงภารกิจของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ในการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและกองทุนหมุนเวียน โดยเป็นตัวกลางในการประสานงานกับหน่วยบริหารและจัดการทุน (PMUs) และหน่วยงาน Fundamental Fund ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน นำไปสู่การเชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนและส่งเสริมระบบฐานข้อมูลการวิจัยด้านการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมชายฝั่งทะเลอันดามันและทะเลอ่าวไทย ให้พัฒนาได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

นายแพทย์พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายด้าน ซึ่งกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ทั้งมิติสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และระบบนิเวศอย่างรุนแรงหากไม่มีการจัดการปัญหา “ความร่วมมือของ 3 หน่วยงานนี้ จะสามารถเสริมหนุนการบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมชายฝั่ง รวมถึงการจัดการต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันและทะเลอ่าวไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความยั่งยืน และลดผลกระทบในทุกมติในระยะยาว”