บทความ

เปิดห้องเรียน เปลี่ยนห้องเล่นด้วย Loose parts

Cover

เปิดห้องเรียน เปลี่ยนห้องเล่นด้วย Loose parts

วัสดุลูสพาร์ทนอกห้องเรียนเป็นวัสดุปลายเปิด หาได้ง่ายรอบตัวเด็ก สามารถนำมาถอดประกอบเคลื่อนย้ายสร้างใหม่โดยไม่มีข้อจำกัด มีขนาด oversize กว่าตัวเด็กเพื่อให้เกิดการช่วยเหลือและวางแผนเคลื่อนย้ายวัสดุ

“เด็กอนุบาลถูกให้เร่งรัดให้อ่านออกเขียนได้ก่อนวัยอันควร ผู้ใหญ่กำกับ ขาดอิสระในการคิด ขาดปฏิสัมพันธ์ในการเล่นกับเพื่อน อยู่หน้าจอนานขึ้นในช่วงที่เรียนออนไลน์ ทำให้พัฒนาการและทักษะทางสังคมของเด็กอนุบาลลดลง จึงจัดกิจกรรมการเล่นแบบชี้แนะร่วมกับลูสพาร์ทนอกห้องเรียน ซึ่งเด็กเป็นผู้นำการเล่น ผู้ใหญ่เป็นผู้สนับสนุนให้บรรลุเป้าหมาย ครูจะมีบทบาทในการจัดสภาพแวดล้อมและสื่อร่วมกับเด็ก ต่อยอดการสอนโดยการตั้งคำถามปลายเปิด และครูเข้าไปร่วมเล่นด้วย” คุณพัทธ์ สุทธิบุญ  นิสิตปริญญาโท สาขาการศึกษาปฐมวัย คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงลักษณะการเล่นแบบ “ลูสพาร์ท” ที่ได้อะไรมากกว่าการเล่นในห้องเรียนที่มีพื้นที่จำกัด

ลูสพาร์ท (Loose parts) คือรูปแบบการเล่นร่วมกับ “ชิ้นส่วนที่เคลื่อนย้ายได้” ที่มีอยู่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น วัสดุอุปกรณ์เหลือใช้ สิ่งของจากธรรมชาติ วัสดุก่อสร้าง ขยะเหลือทิ้ง รวมถึงมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบตัวเด็กๆ ให้รู้จักสร้างสรรค์และตั้งคำถามได้แบบไม่มีกรอบความคิด หรือจำลองสภาพแวดล้อมทางสังคม การเลียนแบบ และการวางแผนในการใช้งานสิ่งของต่างๆ โดยมีครูหรือผู้ปกครองคอยให้คำแนะนำ

ผู้ปกครองลองเปิดใจ ปรับ Mindset กับลูสพาร์ท

ถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งสำหรับกระบวนการเรียนรู้ใหม่ๆ ของเด็กและคุณครูที่ต้องการขยายชุมชนนอกห้องเรียนโดยมีผู้ปกครองเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ เพราะของเล่นที่ดีที่สุดของลูกคือพ่อแม่และครอบครัว เป็นสังคมขั้นพื้นฐานที่เด็กๆ คุ้นเคยและให้ความไว้วางใจ บทบาทของคุณครูจึงต้องเพิ่มการทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและเชิญชวนให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการการเจริญเติบโตของเด็กๆ

“ผู้ปกครองบางคนยังไม่เข้าใจเลยว่าเด็กเรียนรู้ผ่านการเล่น มีการตั้งคำถามมากมายจากผู้ปกครอง เราก็ต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครองก่อนว่าเด็กอนุบาลเรียนรู้ผ่านการเล่น เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ จึงเกิดเป็นความร่วมมือในชุมชน มีผู้ปกครองบางท่านบริจาคขยะเหลือใช้เพื่อเป็นของเล่นให้กับเด็ก ซึ่งเด็กๆ สามารถลองสร้างบ้านด้วยตัวเองได้จากสิ่งของเหล่านั้น จากการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและคุณครูก็เป็นส่วนหนึ่งในการเล่นไปกับเขา” คุณพัทธ์กล่าว

ผู้บริหารจัดการด้านการเล่น

ลูสพาร์ทคือการเล่นโดยมีเด็กเป็นศูนย์กลางของการเล่น ผู้ใหญ่มีหน้าที่คิดธีมเพื่อจัดเตรียมวัสดุให้สอดคล้องกับบริบทที่เด็กอยู่ ร่วมออกแบบวางแผน จัดการสื่อการเล่น รวมไปถึงบูรณาการการเล่นและปรับเปลี่ยนแนวทางการทำงานของคุณครูให้เหมาะสมกับช่วงวัย ซึ่งเด็กๆ จะได้เรียนรู้การบูรณาการข้ามศาสตร์ผ่านความสนุกที่ได้จากการลงมือทำจนเกิดความเข้าใจ โดยมีผู้ปกครองและชุมชนเข้ามาช่วยกันให้คำแนะนำ บริจาค และสร้างพื้นที่เล่นปลอดภัยในชุมชน ผลดีที่ชุมชนจะได้คือการรู้จักวิธีจัดการขยะและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งผู้ปกครองได้แนวทางในการเล่นกับลูกและเข้าใจพัฒนาการของเด็กมากขึ้น

“ใน 1 ธีมเราใช้เวลาเล่น 5 วัน วันละ 40 นาที โดยเราจะเตรียมอุปกรณ์ทั้งหมด 6 ประเภทเพื่อให้เด็กเลือกนำมาใช้ ได้แก่ วัสดุธรรมชาติ ไม้ พลาสติก โลหะ ผ้าริบบิ้น และบรรจุภัณฑ์ ตัวอย่างในการเล่นลูสพาร์ทธีม ‘บ้านแสนสุข’ จะมีผ้าใบเพิ่มเข้ามาเพื่อให้เด็กมีความรู้สึกว่าเขาสามารถสร้างบ้านที่ใช้งานได้จริง”

เล่นจนได้เรื่อง

“มีเรื่องเล่าจากคุณแม่ท่านหนึ่งที่เจอพฤติกรรมของลูกที่เปลี่ยนไป โดยวันหนึ่งลูกกำลังจะเดินไปหยิบไม้กวาด และหันมาพูดกับคุณแม่ว่า ‘คุณแม่ต้องหลบนะ…เพราะปลายไม้กวาดยาวมาก’ ซึ่งเขาไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้เลย” คุณพัทธ์เล่าประสบการณ์ถึงพัฒนาการที่เปลี่ยนไปของเด็กๆ หลังจากเข้าร่วมกิจกรรมลูสพาร์ท โดยมีการพัฒนาด้านทักษะที่ชัดเจนขึ้น ได้แก่ การสื่อสาร การแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์ รวมไปถึงการจัดการกับความเสี่ยง

“เด็กอนุบาลไม่ค่อยได้เรียนรู้ในการจัดการกับความเสี่ยง เวลาที่เขาจะใช้วัสดุอะไรเขาจะไม่ค่อยสนใจตัวเองและคนอื่นๆ กิจกรรมนี้จะแนะนำให้เขาได้รู้ว่าเขาจะต้องระมัดระวังเพื่อน เพราะว่าวัสดุมีขนาดใหญ่กว่าตัว โดยเราพบว่าพัฒนาการ 4 ด้าน ทั้งด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ ด้านสังคม และด้านสติปัญญาของเขาสูงขึ้น ซึ่งกิจกรรมนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถพัฒนาการเด็กอนุบาลได้อย่างรอบด้าน”

กิจกรรมเล่นลูสพาร์ทนอกห้องเรียนมีการนำไปใช้ในโรงเรียนจังหวัดอยุธยาแล้วบางแห่ง ซึ่งประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพึงพอใจ เพราะทำให้คุณครู ผู้ปกครอง และชุมชนได้มีส่วนร่วม ส่วนโรงเรียนในกรุงเทพฯ ถูกนำไปใช้งานในสถานรับเลี้ยงเด็กและโรงเรียนเอกชนเป็นส่วนใหญ่

เติบโตไปด้วยกัน

ปัญหาที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักให้ความกังวลในช่วงวัยอนุบาล คือการเขียนหนังสือให้เป็นตัวอักษร คุณพัทธ์มองว่าเป็นเรื่องของพัฒนาการตามวัย ที่ผู้ปกครองต้องลดความคาดหวังและหันมามองพัฒนาการด้านอารมณ์มากกว่าพัฒนาการทางวิชาการแบบก้าวกระโดด

“สุดท้ายแล้ว การที่จะประสบความสำเร็จได้ คือผู้ปกครองต้องมีความรู้ความเข้าใจร่วมไปกับเราด้วย คือต้องให้กำลังใจคุณครูนะคะ ครูอนุบาลอาจจะรู้สึกว่าง่าย แต่จริงๆ แล้วการทำงานไม่ใช่แค่กับเด็กอย่างเดียว แต่ต้องทำงานร่วมกับผู้ปกครองด้วย ให้เขาเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันว่าเด็กมีพัฒนาการตามวัย กิจกรรมลูสพาร์ทนอกห้องเรียนช่วยให้คุณครูและผู้ปกครองได้คุยกัน ได้แชร์ประสบการณ์ และช่วยกันสังเกตพัฒนาการของเด็กไปพร้อมๆ กัน”

“ต้องให้กำลังใจคุณครูนะคะ ครูอนุบาลบางคนก็จะรู้สึกว่าง่าย แต่จริงๆ แล้วการทำงานไม่ใช่แค่กับเด็กอย่างเดียว แต่ต้องทำงานร่วมกับผู้ปกครองด้วย ให้เขาเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน พอมาเจอสถานการณ์โควิดรายได้น้อยลง รายจ่ายเพิ่มขึ้น ผู็ปกครองหลายคนก็จะมีข้อจำกัดในการซื้อของเล่นให้ลูก การที่เราเอาของเล่นเหลือใช้จากลูสพารตส์นอกโรงเรียนไปใช้ทำให้เขาประหยัด ได้พูดคุย ได้แชร์ประสบการณ์การ ครูฟังผู้ปกครองผู้ปกครองฟังครู ก็จะทำให้พัฒนาเด็กไปพร้อมๆ กันได้ค่ะ”

คุณพัทธ์ สุทธิบุญ (มหาบัณฑิต)

สาขาการศึกษาปฐมวัย คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อาจารย์ที่ปรึกษา: รองศาสตราจารย์ ดร.ศศิลักษณ์ ขยันกิจ