ลานธรรม ผึ้งธัมม์ มรดกทางวัฒนธรรมสู่การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก
พฤศจิกายน 24, 2023 2025-01-13 14:09ลานธรรม ผึ้งธัมม์ มรดกทางวัฒนธรรมสู่การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก
โอมกดสวา มหากดสวา
โอมสะตะโสไส สวาหุมฯ
โอมโสรังรังโอมมะรังสุสีสวาหุมฯ
โอมทิพพญาตนอยู่ฟ้า
แกล้วกล้าปราบชมพูคาอี่นั้นมารักกูเนอ
เออรักสวาหุมฯ
โอมจิตตังพะสะทังปิยังมะมะสวาหุมฯ
คาถามหานิยมจากคัมภีร์ใบลานอักษรธรรมล้านนา หนึ่งในคาถาจากคัมภีร์ธรรมล้านนาด้านหลังผลิตภัณฑ์ “ผึ้งธัมม์”
โอมจงรัก โอมจงหลง หยอดน้ำผึ้งสามหน รับรองงานนี้หวานเจี๊ยบ!…งานวิจัยแบบใหม่ถูกใจมิตรสหายสายธรรมจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้โครงการวิจัยเพื่อการอนุรักษ์ภูมิปัญญาการจารคัมภีร์ใบลานในจังหวัดน่าน ที่นำไปสู่การผูกโยงเรื่องราวผลิตภัณฑ์ในชุมชนท้องถิ่นได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ นำทีมโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฐิติรัตน์ ปั้นบำรุงกิจ ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
แรกเริ่มโครงการวิจัยไม่ได้หวือหวาอย่างที่คิด เป็นเพียงหนึ่งโครงการวิจัยเล็ก ๆ ที่มุ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์จากคัมภีร์ใบลานอักษรธรรมล้านนา เพื่ออัปโหลดข้อมูลเข้าสู่ฐานระบบดิจิตอล และสร้างการติดตามพิกัดข้อมูลทางภูมิศาสตร์ โดยใจความสำคัญนอกจากการกล่าวถึงคำสอนตามพระไตรปิฎกแล้ว คัมภีร์ใบลานยังบรรจุเรื่องราวในชีวิตประจำวัน คาถาบทสวด บัญชีรายรับ-รายจ่าย รวมไปถึงตำรับยาโบราณท้องถิ่นที่ส่งผลให้กลุ่มวิจัยปิ๊งไอเดียประหนึ่งจุดเทียนพรรษารอบโบสถ์ขึ้นมา
“โครงการนี้ ผศ.ดร.ฐิติรัตน์ ปั้นบำรุงกิจ เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย และเคยลงพื้นที่ที่จังหวัดน่านมาก่อน ซึ่งได้พบปะกับปราชญ์ชาวบ้านที่เรียกตัวเองว่า ‘ทีมม้าแก่’ โดยมีอาจารย์สมเจตน์ วิมลเกษม เป็นหนึ่งในทีมที่ใช้เวลาว่างหลังเกษียณในการเข้าไปรวบรวมข้อมูล โดยทางทีมของเราเห็นสภาพเอกสารโบราณมีความเสื่อมลง บางชิ้นก็กลายเป็นผงไปแล้ว จึงเข้าไปช่วยในเรื่องการสำเนาคัมภีร์ใบลานให้เป็นดิจิตอล และต่อยอดออกมาเป็นการพัฒนาให้เกิดเศรษฐกิจที่ชุมชนสามารถนำความรู้ในใบลานมาใช้ประโยชน์ได้” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วชิราภรณ์ คลังธนบูรณ์ ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ หนึ่งในทีมนักวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดเก็บข้อมูลทางประวัติศาสตร์และมองเห็นคุณค่ามรดกท้องถิ่นที่สามารถส่งต่อให้คนในชุมชนได้มีความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์รากเหง้าของตนเองได้


อีกหนึ่งความสำคัญของการเก็บหลักฐาน คือการ ‘ระบุตัวตน’ บุคคลผู้ทรงอิทธิพลในช่วงระยะเวลานั้น ๆ ว่าเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในอดีต มีถิ่นที่อยู่อาศัยบริเวณใด และมีการเกี่ยวข้องกับผู้มีชื่อเสียงท่านใดบ้างจากการจารึกชื่อผู้ว่าจ้างให้คนจารใบลานเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ทั้งยังได้เห็นถึงการกระจายตัวของข้อมูล แม้จะใช้เวลาในการรวบรวม แต่ก็เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่เข้ามาเติมเต็มหน้าประวัติศาสตร์ของล้านนามากยิ่งขึ้น
“นอกจากเนื้อหาส่วนใหญ่ที่มาจากพระไตรปิฎกแล้ว ในหน้าสุดท้ายมักจะมีการบันทึกถึงผู้จารคัมภีร์ ผู้ว่าจ้าง ผู้ที่ต้องการอุทิศให้ หรือรวมไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น เช่น ในขณะจารคัมภีร์เกิดน้ำท่วม เป็นต้น เรายังค้นพบว่า ผู้ชายมีบทบาทสำคัญในการจารคัมภีร์เป็นหลัก ส่วนผู้หญิงนั้นจะมีส่วนร่วมในบรรจุภัณฑ์ ได้แก่ ศิลปะการทอผ้าห่อคัมภีร์ สายสนองจากเส้นผม (เชือกร้อยใบลานให้เป็นเล่ม) รวมไปถึงการให้การสนับสนุนในการทำคัมภีร์ โดยมีความเชื่อกันว่า การทำคัมภีร์ใบลานเป็นกุศลอันแรงกล้า ช่วยสืบต่อพระศาสนา แม้จะมีบ้างที่ผู้หญิงเป็นผู้จารใบลานแต่ก็มีส่วนน้อย ซึ่งหลักฐานนี้เองสามารถนำไปต่อยอดการตีความถึงสังคมในช่วงนั้นได้เป็นอย่างดี”
อาจารย์ ดร.จนัธ เที่ยงสุรินทร์ ผู้ร่วมขบวนธรรมจากภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ามาช่วยผูกโยงเรื่องราวระหว่างชุมชนและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งได้ข้อมูลมากจากตำรายาโบราณที่ปรากฏในคัมภีร์ใบลาน โดยหยิบยก ‘น้ำผึ้ง’ หนึ่งในตัวยาจากธรรมชาติที่มีการบริโภคอย่างแพร่หลายตั้งแต่สมัยพุทธกาล นอกจากนี้ ปัจจุบันยังเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่สร้างอาชีพให้กับผู้คนในชุมชนมาอย่างช้านานอีกด้วย “เนื้อหาในคัมภีร์มักจะครอบคลุมเรื่องราวต่าง ๆ รอบตัว รวมถึงมีตำรายาผสมอยู่ในคัมภีร์ใบลานด้วย เราพบว่ามีน้ำผึ้งถูกกล่าวถึงในฐานะส่วนผสมของยา ซึ่งมีชุมชนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในตำบลสันทะ จังหวัดน่าน ที่เป็นกลุ่มเกษตรกรผลิตน้ำผึ้งเป็นอาชีพ เราจึงผูกโยงเรื่องราวระหว่างคัมภีร์ใบลานโบราณไปสู่การพัฒนาตัวสินค้าให้มีนวัตกรรมมากขึ้น” ดร.จนัธกล่าว


‘ผึ้งธัมม์’ ผลิตภัณฑ์ชิ้นเอกที่เกิดจากการก่อร่างสร้างตัวโดยโครงการฯ เป็นของดีประจำชุมชนที่เริ่มจากความศรัทธา งานวิจัย และน้ำผึ้ง “ถ้าไม่มีความศรัทธาเริ่มขึ้นก่อนตั้งแต่แรกก็คงไม่เกิดโครงการนี้ขึ้น จึงกลายเป็นผึ้งที่อยู่กับธรรมมะ และเราก็พึ่งพระ (ธรรม) ด้วย” ดร.จนัธ หัวเราะ
จากงานสำเนาคัมภีร์ใบลาน ขยายต่อยอดการวิจัยนำไปสู่ความร่วมมือไม่รู้จบ ผลิตภัณฑ์จากผึ้งกำลังนำความคิดของนักวิจัยบินไปสู่ตลาดแห่งใหม่ที่คาดว่าจะสร้างมูลค่าให้กับชุมชนได้อย่างไม่สิ้นสุด โดยได้รับความร่วมมือจากภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร (Department of Food Technology) คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ในการผลิตและสกัดกลิ่นเทียนหอมเฉพาะต่อยอดผลิตภัณฑ์จากไขผึ้ง และกำลังจะขยายไปสู่การทำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอย่างเช่น ลิปบาล์ม เป็นต้น
ดร.วชิราภรณ์กล่าวต่อในส่วนของการดำเนินงานคัมภีร์ใบลานอักษรธรรมล้านนาว่า “เราพยายามรวบรวมและทำสำเนาดิจิทัลตามวัดต่าง ๆ และนำไฟล์ที่ได้มาพัฒนาเป็นคอเลคชั่นดิจิตอล เพื่อให้ผู้คนทั่วไปสามารถสืบค้นและเข้าถึงได้แบบออนไลน์ โดยผสมผสานเทคโนโลยีระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์เข้ามาช่วย ทำให้สามารถรับรู้ถึงตำแหน่งของเอกสารและจำนวนของคัมภีร์ใบลานได้”
“ในอนาคต ถ้ามีโอกาสเราจะปริวรรตด้านอักษรโบราณ เนื่องจากใบลานจารด้วยอักษรธรรมล้านนา มีคนจำนวนน้อยที่สามารถอ่านออก โดยโครงการนี้จะช่วยส่งเสริมให้การศึกษาอักษรธรรมล้านนาสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ขณะนี้มีการร่วมมืือกับโรงเรียนสตรีศรีน่านที่เห็นคุณค่าและความสำคัญของการเรียนรู้อักษรธรรมล้านนา รวมถึงเกิด ‘ชมรมตั๋วเมือง’ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ของกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ที่พยายามทำความเข้าใจตัวอักษรธรรมล้านนา ซึ่งในอนาคตบุคคลเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญที่จะเข้ามารวบรวมและสำเนาดิจิตอลในรุ่นต่อไป”


ดร.จนัธกล่าวเสริมว่าการที่เราทำสำเนาดิจิตอลไว้ ถือว่าเป็นการเก็บหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างหนึ่ง ที่บ่งชี้ว่าคัมภีร์ใบลานฉบับนี้มาจากแหล่งไหนในทางภูมิศาสตร์ ซึ่งเชื่อมโยงกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนในปัจจุบันที่มีความสำคัญเช่นกัน ซึ่งช่วยส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมีเรื่องราว มีที่ยืน มีจุดขาย มีหมุดหมาย และสร้างความแตกต่างระหว่างสินค้าในท้องตลาดทั่วไปได้
“ในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ชุมชนมีการแข่งขันสูงในทุกเรื่อง ต้องมีความสามารถทั้งด้านนวัตกรรมและเรื่องราว คัมภีร์ใบลานอาจมีส่วนช่วยในการสร้างมิติเรื่องราวของสินค้าโดยชูเรื่องความโดดเด่นของรากเหง้าความเชื่อ และความศรัทธาในพุทธศาสนา แต่ในด้านนวัตกรรมเองก็ต้องมีงานวิจัยอื่นๆ เข้ามาช่วยรองรับด้วย ถ้ามีเพียงแค่ด้านใดด้านหนึ่ง คงไม่พอที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ยืนอยู่ในสังคมได้อย่างยั่งยืน”
“ขอฝากในเรื่องของการอนุรักษ์เอกสารโบราณ ซึ่งคัมภีร์ใบลานเพียงที่จังหวัดน่านก็จำนวนมีมากจนไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่นอนได้ โดยมีความจำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องเข้าไปช่วยกันอนุรักษ์ อย่างน้อย ถ้าในตอนนี้เรายังไม่มีเทคโนโลยีช่วยสำเนาหรือทำให้เป็นดิจิตอลได้ดีเท่าที่มีอยู่ แต่เรายังคงสภาพหรือเก็บข้อมูลในคัมภีร์ให้อยู่ในสภาพดีให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เทคโนโลยีในอนาคตสามารถสืบค้นและเก็บหลักฐานได้ เราพบว่ามีหลายโครงการที่พยายามเข้ามาจัดเก็บและรวบรวม ซึ่งเป็นการยากอยู่ดีที่จะรักษาหรือตามเก็บข้อมูลให้ได้ครบถ้วน ในฐานะฟันเฟื่องเล็ก ๆ เรายังคงพยายามเข้าไปช่วยให้จังหวัดน่านยังคงมีเอกสารและสามารถจัดเก็บเอกสารโบราณของชุมชนให้ยังคงอยู่ได้ต่อไป” ดร.วชิราภรณ์กล่าวทิ้งท้าย
สามารถติดตามผลิตภัณฑ์ในนาม “ผึ้งธัมม์” ได้ที่ Line @pheungtham

(ซ้าย) อาจารย์ ดร.จนัธ เที่ยงสุรินทร์ ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ และ (ขวา) ผศ.ดร.ฐิติรัตน์ ปั้นบำรุงกิจ ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์
ข้อมูลอ้างอิง
- DMC.TV.(2566) ร้อยเรียงลาน…สืบสานพุทธธรรม จากเว็บไซต์ http://www.dmc.tv/pages/ความรู้รอบตัว/คัมภีร์ใบลาน-ร้อยเรียงลานสืบสานพุทธธรรม.html
- อุไร คำมีภา. “ผ้าห่อคัมภีร์ใบลาน ศรัทธาและปรารถนาแห่งสตรี”. หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.9 นครราชสีมา
- ธันวดี สุขประเสริฐ. (2564). “คัมภีร์ใบลาน จารจารึก ด้วยศรัทธา”. ฐานข้อมูลเครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้าน, สืบค้นจาก https://www.sac.or.th/databases/traditional-objects/th/blog_det.php?bid=6

อาจารย์ ดร.จนัธ เที่ยงสุรินทร์ (ยืนด้านซ้าย)
ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วชิราภรณ์ คลังธนบูรณ์ (นั่งด้านขวา)
ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย